Leafy Monster - Syngonium Milk Confetti

ดินปลูก Syngonium Milk Confetti

Syngonium Milk Confetti

ฉายาน้องนมชมพู พื้นขาวลายจุด

เจ้านมชมพู หรือ Syngonium Milk Confetti นั้น เป็น 1 ในต้นที่โมเคยอยากได้มากๆค่ะ ช่วงนั้นราคาค่อนข้างสูงเลย วันที่ได้มาโมได้มาเป็นต้นจิ๋วเล็กๆค่ะ 5-6 ใบ สีพื้นใบยังเขียวอ่อนๆไม่ขาวจั๊ว หลังจากที่โมได้ทำการทดลองต่างๆนาๆเกี่ยวกับการบำรุงและวัสดุปลูก ก็ได้เวลาแชร์ข้อมูลอันมีค่านี้ให้ทุกท่านได้นำไปทดลองใช้บำรุงน้องๆนมชมพูให้สวยสดเหมือนของโมค่ะ

Syngonium Milk Confetti สูตรดินปลูก

แถมการเลี้ยงและการดูแล ฉบับเต็ม

เปลือกสนนิวซีแแลนด์ เนื่องจากแพงโมเลยเก็บไว้ให้ลูกรัก โมใส่ไป 3 ส่วนค่ะ ส่วนพวกเพอร์ไลท์ เวอร์มิคูไลท์และหินภูเขาไฟสำหรับเพิ่มความโปร่งระบายน้ำและเพิ่มช่องอากาศระหว่างราก โมใส่ไปอย่างละ 1 ส่วนค่ะ สุดท้าย ดินคานูมา/อาคาดามะ หินส้ม ดินทังซาน และเลก้าบอล โมผสมๆลงไปอย่างละครึ่งส่วน อันไหนแพงใส่น้อยก่อนค่ะเดี๋ยวหมดเร็ว 555

สุดท้ายรองก้นด้วยเลก้าบอลหรือหินภูเขาไฟเบอร์ใหญ่ก็ได้ เพื่อให้สามารถระบายน้ำและอากาสได้ดี รากพืชชอบมากๆค่ะ ดูในรูปได้เลยค่ะ ตอนที่โมแกะเอาออกมาจากกระถางคือรากส่วนมากไปวนๆอยู่ช่วงนั้นค่ะ ส่วนขนรากจะยึดตัวเปลือกสนเยอะเป็นพิเศษค่ะ

ท่านใดที่มีวัสดุปลูกไม่ครบโมอยากให้เน้นแบบนี้นะคะ

เนื่องจากวัสดุปลูกบางอย่างอาจหายาก ต้องซื้อออนไลน์เท่านั้น ไม่ค่อยเจอที่ร้านขายต้นไม้ทั่วไป บางอย่างเราสามารถใช้แทนกันได้ค่ะ

ถ้าไม่มีเปลือกสน สามารถใส่กาบมะพร้าวได้ค่ะ หน้าที่คล้ายกัน คือเป็นที่ยึดเกาะของราก แตกต่างกันตรงกาบมะพร้าวต้องแช่น้ำล้างสารแทนนินออกก่อนเยอะๆ จนกว่าน้ำจะหายเหลือง ส่วนเปลือกสนสามารถใช้ได้เลยค่ะ
คานูม่า อาคาดามะ สามารถใช้แทนกันได้ เช่นเดียวกับหินส้มและทังซาน ใช้แทนกันได้ แต่ความรู้สึกโมคิดว่าทังซานช่วงในเรื่องการกระตุ้นการแตกรากมากๆค่ะจากที่ทดลองมา โมเลยจะมีติดบ้านไว้เสมอ ซื้อออนไลน์เอาค่ะ เจ้าไหนถูกสุดเลือกเจ้านั้นค่ะโมสายประหยัด

เพอร์ไลท์ เวอร์มิคูไลท์ก็ใช้แทนกันได้หมดค่ะ คุณสมบัติคือเค้าช่วยให้โปร่งระบายน้ำ อุ้มความชื้นพอดี และสามารถเก็บกักปุ๋ยและค่อยๆปลดปล่อยออกมาช้าๆได้ ทั้งสองจะมีแร่ธาตุที่สำคัญใกล้เคียงกันค่ะ มีอย่างใดอย่างหนึ่งจะดีค่ะ โมเชียร์เพอร์ไลท์ เพราะใช้ผสมอื่นๆได้เยอะค่ะ

อธิบายดินปลูกแต่ละตัวให้อย่างละเอียด

ใครถนัดอ่านในเฟส เข้าไปอ่านได้ใน อธิบายวัสดุปลุกแต่ละตัวอย่างละเอียด ได้เลยนะคะ

เปลือกสนนิวซีแลนด์

เปลือกสนนั้นช่วยให้รากยึดเกาะดี อุ้มความชื้นได้ดี อาจมีปัญหาเรื่องราบ้าง แต่ตามที่พบเจอมาเป็นราที่ไม่อันตรายกับรากของต้นไม้ค่ะ แถมยังเห็นว่ารากแตกเยอะอีกต่างหาก เปลือกสนโมพบว่าง่ายเวลาเราย้ายกระถางค่ะ เราสามารถดึงรากออกมาได้ง่ายโดยที่รากของต้นไม้แทบจะไม่ขาดเลย การรักษารากไว้ให้เยอะมากที่สุดระหว่างการเปลี่ยนกระถาง จะช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวเร็วมากขึ้นค่ะ

เพอร์ไลท์ และ เวอร์มิคูไลท์

ในส่วนของเพอร์ไลท์จะมีซิลิก้าเยอะ ส่วนเวอร์มิคูไลท์ จะมีองค์ประกอบคล้ายๆกันแต่จะมีอลูมิเนียมมากกว่า ทั้งคู่ให้คุณสมบัติโปร่ง ระบายน้ำและอากาศได้ดี ทำให้รากของต้นไม้เดินดีเพราะมีอากาศในดินเพียงพอค่ะ ซึ่งจริงๆเปลือกสนผสมเพอร์ไลท์ ก็เพียงพอค่ะถ้าหาดินอื่นไม่ได้

หินภูเขาไฟ

อันนี้จะเป็นหินมีรูพรุน เพิ่มช่องว่างในวัสดุปลูก รวมทั้งเรื่องอากาศในดินด้วย แล้วตัวหินภูเขาไฟเองก็จะคล้ายๆเวอร์มิคูไลท์ค่ะ คือเจอปุ๋ยแล้วจะดูดซับปุ๋ยไว้ในตัวให้พืชดูดซึมได้ค่ะ อันนี้ไม่มี ไม่ใส่ได้ค่ะ หรือใส่แทนหินส้มและดินทังซ่านได้ค่ะ

ดินญี่ปุ่นคานูมา

คานูม่าจะเป็นหินเล็กๆสีนวลๆครีมๆนะคะ ดินตัวนี้มีค่าความเป็นกรดอ่อนๆ (pH น้อยกว่า 6) โดยจะช่วยให้ดินมีความเป็นกรดหน่อยๆค่ะ โมใส่แล้วเห็นผลดีค่ะ อีกทั้งดินนี้ยังมีความอ่อนนุ่ม ไม่บาดต้นไม้ด้วยค่ะ ไม่มีไม่จำเป็น แต่ถ้ามีอยากให้ใส่ค่ะ ตัวนี้นอกจากจะใส่ให้น้องมิลค์แล้ว โมยังใส่ให้ Pink Princess และบอนสีด้วย ซึ่งเห็นผลดีเลยค่ะสีสดใสมากๆ

เลก้าบอล

ตัวนี้โมชอบเป็นพิเศษ เวลาโดนน้ำแล้วเค้าเย็นมากกก ด้วยความกลมของเขา ทำให้มีที่เหลือในกระถางเยอะ ระบายอากาศดีอีก น้ำหนักเบา สามารถเอาไปรองก้นกระถางได้ (นอกเรื่อง รู้สึกพวกมอนจะชอบด้วยค่ะ โมใช้กับไทคอนที่บ้านอยู่ น้องก็โตไวเช่นกันค่ะสูตรนี้)

หินส้ม scoria

ดูดซับสารอาหารไว้ในตัวได้ดี และปล่อยออกมาเมื่อรอบๆเริ่มแห้ง เลยทำให้ช่วย maintain เรื่องความชื้นและสารอาหารให้ไม้ในกระถางเราเป็นอย่างดี อันนี้โมชอบส่วนตัวเลยค่ะ (ไม่จำเป็นมาก)

ดินทังซ่าน

ดินทังซ่าน ตัวนี้จะเป็นสีอิฐๆ นำมาใส่เพราะอุ้มน้ำได้น้อยมาก เห็นผ่านๆมาว่าช่วยเรื่องการแตกรากได้ดี เลยลองใส่ดูค่ะ คือใน 1 อาทิตย์ โมจะมีช่วงรดน้ำ และปล่อยให้แห้งบ้าง (ไม่แห้งมาก) โมสังเกตุว่าช่วงแห้งรากจะเดินไวเดินดีค่ะ ทั้ง pink และ milk ที่มีอยู่ (ไม่จำเป็นมาก)

การเลี้ยงดูเบื้องต้น

แสงสว่าง

แสง เช้า-สาย ใต้แสลน 60% หรือใช้ไฟสังเคราะห์ค่ะ โมเคยทดลองนำ Syngonium อื่น ๆ ไปปลูกในแดด 100% ด้วยค่ะ เช่น Syngonium Mojito ออมแดงญี่ปุ่น และออมชมพู พบว่าแรกๆเค้าจะใบไหม้ไปสักหน่อย แต่พอปรับตัวได้ก็จะเริ่มเปิดใบสวยงามสีสดใสสู้แดดเลยค่ะ ส่วนน้อง Milk Confetti สำหรับโมแล้วไม่ค่อยเห็นผลดีเท่าไหร่พอตากแดดค่ะ พบว่าสีสดเมื่อรำไร หรือใช้ไฟปลูกต้นไม้แรงๆมากกว่า

การรดน้ำ

ให้น้ำ 3-4 วันครั้งนึง หรือให้เมื่อวัสดุปลูกแห้งค่ะ ให้ที่โคนต้น ไม่ให้โดนใบ แต่ทุกวันช่วงเช้า จะใช้สเปรย์พ่นน้ำบนใบ พอชื้นๆ ไม่ให้เปียกเป็นหยดเกาะใบค่ะ โมพบว่าเมื่อเลี้ยงไปสักพักหนึ่ง มิลค์จะชอบกินน้ำมาก ๆ ค่ะ สามารถเพิ่มปริมาณน้ำที่ให้ได้ ถ้าใช้ดินปลูกตามที่แนะนำยิ่งไม่ต้องกังวลเรื่องดินแฉะเลย เพราะว่าโปร่งระบายน้ำสุดๆ

อุณหภูมิและความชื้น

อุณหภูมิให้คงไว้ที่ประมาณ 28-30 องศาค่ะ ส่วนความชื้นอยู่ที่ 78-85% ไม่ต่ำ และไม่สูงไปมากกว่านี้ หากจัดการให้อุณหภูมิและความชื้นคงที่ตลอดเวลาได้ ต้นไม้จะโตเร็วแข็งแรง ทำรากดีมากๆค่ะ

ปุ๋ยและยาต่างๆ

อาหารทางใบ

ใช้ HB-101, ไซโตอ็อกซิน ฉีดพ่นทุกๆ 3-4 วัน หรือเมื่อต้นไม้เริ่มแห้งหรืออากาศแห้งมากๆ

HB-101 – ฉีดพ่นได้บ่อยครั้ง ใช้น้อย แค่ 1-2 หยด น้ำ 1 กระบอกก็เพียงพอ แนะนำร้านนี้ค่ะถูกสุด https://shp.ee/vm44ei3
ไซโตอ็อกซิน – สาหร่ายสกัด เสริมการเจริญเติบโต ร้านพี่อุ๊เลยค่ะของคุณภาพ https://shp.ee/ezsbas3

ปุ๋ยทางดิน

ใช้ ออสโมโคท (13-13-13) และเทอร์โมโค้ท (14-13-13) และมี B1 ผสมน้ำรดโคนบ้าง 2 อาทิตย์ครั้งค่ะ รดน้ำเมื่อดินปลูกแห้งเท่านั้น และจะพยายามไม่รดน้ำช่วงเย็น เนื่องจากจะทำให้น้องเปียกชุ่มไปทั้งคืน น้ำระเหยออกน้อยค่ะ เสี่ยงที่ต้นไม้จะรากเน่าได้

ยากำจัดเชื้อรา

ใช้สลับๆวนกันไปค่ะได้แก่ ฟังกุราน จอยส์ และแคปทาไซท์ เวลาเราใช้เปลือกสนนิวซีแลนด์ จะเจอว่ามีเชื้อราอยู่บริเวณหน้าดินบ้างเป็นใบสีขาวๆ พวกนี้เป้นเชื้อราไม่อันตรายไม่ต้องกังวลนะคะ แต่ถ้าเจอเชื้อราสีดำ หรือเชื้อราที่ขึ้นอยู่บนต้นไม้เรา แบบนั้นเป็นเชื้อราอันตรายค่ะ มักจะพบอาการต่างๆตามมาเช่น ใบเหลือง โตช้า ใบเล็กลง ไปจนถึงรากเน่าค่ะ

ยากำจัดแมลง

ใช้สลับๆเช่นกันค่ะ ออทุส โอเบรอน ส่วนมากมิลค์ไม่ค่อยมีแมลงรบกวนที่อันตราย ยกเว้นเพลี้ยไฟค่ะ ซึ่งหาตัวยากมากๆ มักจะมาช่วงเช้า ๆ ที่เราตื่นมาดูไม่ทันค่ะ ส่วนเปลี้ยแป้งพวกนี้ไม่อันตรายมาก ให้กำจัดมดออกให้หมดค่ะ เนื่องจากมดเป็นตัวแบกมา