บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการอนุบาลไม้ด่าง ไม้ใบด้วยการ อบต้นไม้ ไม่ว่าจะเป็นการอบต้นไม้ในถุง หรืออบต้นไม้ในถ้วยพลาสติก พร้อมบอกแนวทางอย่างไหนควรทำหรือไม่ควรทำขณะอบต้นไม้ และคำถามที่เจอบ่อยค่ะ
จุดประสงค์ในการอบต้นไม้หลัก ๆ เลยคือการรักษาความชื้น เมื่อความชื้นคงที่ตลอดเวลาในถุง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
ลดการคายน้ำที่ปากใบของพืช
รากสามารถเจริญเติบโตได้ดี เนื่องจากพืชไม่ขาดน้ำ
ใบใหม่กางง่ายขึ้น เนื่องจากความชื้นเพียงพอ
การอบต้นไม้เพื่อการอนุบาลไม้เนื้อเยื่อที่รากน้อย ๆ ด้วยการชำเพอร์ไลท์พีทมอส และปิดอบโดยไม่ให้อากาศหรือความชื้นเข้าออกจากที่อบได
การอบต้นไม้ข้ออิพิด่างขาวและเงินไหลมาด่างขาว สำหรับทำรากในการตัดขยายไม้วางข้อ 3 ถุงนี้โมอบต้นไม้ไว้ประมาณ 15-45 วันแล้วแต่ว่ารากโตไวแค่ไหนค่ะ รากมาเร็วมาช้าดูที่ระยะเวลาการเปิดใบใหม่ค่ะ
แสงสว่าง ในช่วงการ อบต้นไม้ นี้ควรวางไม้ไว้ในที่ที่มีแสงสว่างน้อยกว่าปกตินิดหน่อย อาจจะรำไรนิดนึง แต่ต้องมีแสงสว่างที่เพียงพอนะคะ
การให้น้ำก่อนเข้าอบ รดน้ำใส่กระถางให้พอชื้น หรือรดประมาณนึงแล้วทิ้งให้สะเด็ดน้ำสัก 10 นาที เช็คดูให้พอชื้น เมื่อนำเข้าถุงอบแล้วจะต้องไม่เปิดอีก เพื่อไม่เป็นการรบกวนความชื้นในถุง
ถ้าเป็นไม้อนุบาลเนื้อเยื่อเล็ก ๆ โมจะใช้ไซริงค์รดน้ำน้อย ๆ พอชื้น ๆ (ย้ำว่าชื้น ๆ ทั้วทั้งกระถาง)
ถ้าเป็นต้นใหญ่ ไม้วางข้อ โมจะรดเต็มที่จนน้ำออกใต้กระถาง แล้ววางทิ้งไว้สัก 10 นาทีให้สะเด็ดน้ำ
ปกติโมจะพ่นยาฆ่าราผสมไปด้วยบาง ๆ ป้องกันการเกิดราในถุงอบต้นไม้
หลังจากเอากระถางวางในถุงอบต้นไม้แล้ว พยายามเช็คอย่าให้มีน้ำท่วมในถุงอบต้นไม้หรือที่อบต้นไม้ของเรานะคะ
การที่มีไอน้ำเกาะบริเวณข้าง ๆ ถุง อบต้นไม้ และใบของต้นไม้ยังสดเด้ง แปลว่าต้นไม้ของเรายังดีอยู่ ปล่อยอบไปยาว ๆ ได้เลยค่ะ ไอน้ำที่เกาะอยู่เป็นปกติ เกิดจากน้ำที่ระเหยอยู่ในถุงอบและการคายน้ำของต้นไม้ค่ะ
การป้องกันรา สามารถพ่นยาฆ่ารา หรือผสมยาฆ่าราบาง ๆ รดไปในกระถางได้ ส่วนมากโมจะผสมน้ำฉีดพ่นฟุ้ง ๆ ในถุง เน้นโคนต้น หน้าดิน และทริคอีกอย่างของโมคือ ฉีดใส่พื้นผิวถุงอบ หรือฉีดใส่ภาชนะด้านในที่เราอบต้นไม้ เพื่อทำความสะอาดไปในตัว ราที่อันตรายขณะเราอบต้นไม้ มักจะเป็นราดำ สามารถขึ้นและเติบโตบนตอไม้ของเรา หรือบางส่วนของต้นไม้เราในถุงอบต้นไม้ได้ค่ะ
ทริคเพิ่มเติมสำหรับการอบต้นไม้
ควรวางไว้ในที่เย็น ๆ หน่อย แสงเพียงพอ จะโตไวค่ะ
ถ้าอบในถุง อบต้นไม้ ตีถุงโป่ง ๆ นะคะ ให้อากาศเยอะ ๆ ค่ะ เพราะบางทีเราเผลอพลั้งให้น้ำเยอะก่อนปิดถุง อย่างน้อยก็จะไม่ชื้นมากเท่าอบแคบ ๆ
สังเกตุว่าน้ำพอไหมที่อบอยู่ คือพืชเปิดใบใหม่ดี ที่ข้างถุงมีไอน้ำเกาะ พืชมีหลอดใหม่ หรือรากเดินดีแล้ว เป็นอันว่าดี
ปิดถุง อบต้นไม้ เสร็จแล้วให้ลืมน้องไปเลยค่ะ หันมาอีกทีโตไวแน่นอน
อบในถุง พยายามอย่าให้ถุงอบทับใบ หาอะไรรัดถุงแล้วกึ่งห้อยกึ่งวางไว้จะดีค่ะแบบในรูปข้างล่าง
รูปนี้เป็นการอบข้อไม้ตัดขยายต้นเงินไหลมาด่างขาว โดยใช้ถุงพลาสติดขนาดใหญ่ ใส่ต้นไม้ลงไป พรมยาฆ่าราบาง ๆ รดยาเร่งรากลงแต่ละกระถางพอชื้น ๆ ไม่เปียกชุ่ม แล้วตีถุงโป่ง ๆ มัดแน่น ๆ ใช้เชือกฟางมัดไว้กับคาน หรือชั้นวางที่เรามีเพื่อไม่ให้ถุงตกพับใส่ใบ
อบต้นไม้ ไว้นานแค่ไหน นำไม้ออกได้เมื่อไหร่
เมื่อรากเดินดีทะลุกระถางแล้ว
เมื่อต้นมีขนาดใหญ่คับเต็มที่อบ
เมื่อใบใหม่ขึ้นมาแล้ว หลอดกางแล้ว (สำหรับวางข้อ)
เมื่ออดใจไม่ไหว อยากเจอหน้าน้องแล้ว555
ไม้วางข้อ ส่วนตัวโมอบ 3 อาทิตย์ถึงเดือนครึ่งค่ะ แล้วแต่ว่าขี้เกียจแกะถุงไหม555
เนื้อเยื่อโมอบไว้เดือนนึงค่ะ แล้วแต่ตอนมาว่าเล็กแค่ไหน
ปล. ควรสอบถามแม่ค้าตอนซื้อมาว่าควรอบต้นไม้นานแค่ไหน เนื่องจากสภาพการเลี้ยงดูแต่ละที่ต่างกัน แม่ค้าจะเข้าใจต้นไม้ของตนเองดีที่สุดค่ะ
รูปนี้เป็นตัวอย่างการ อบต้นไม้ เพื่ออนุบาลเนื้อเยื่อหลังจากได้รับมาเป็นต้นเล็กที่ไม่มีราก ปัจจุบันเป็นต้นใหญ่ไปเรียบร้อย ระยะเวลาประมาณ 1 เดือนค่ะ พอเปิดใบใหม่ได้เยอะ แปลว่ารากเริ่มดีแล้ว ให้ค่อย ๆ แง้มออกทิ้งไว้สัก 1 วันเพื่อปรับตัว แล้วจึงนำออกมาเลี้ยงข้างนอกได้ค่ะ
นำต้นไม้ออก หรือเปิดถุงยังไงให้ปลอดภัย
ถ้าเป็นคัพเค้ก เจาะรู หรือแง้มฝาไว้ก่อนสัก 1-2 วันให้สภาพข้างนอกกับข้างในค่อย ๆ ปรับเข้าหากัน
ถ้าเป็นถุงอบ ก็ค่อย ๆ เปิดถุงทิ้งไว้น้อย ๆ สัก 1-2 วันเช่นกัน เพื่อปรับสภาพ
เมื่อนำออกจากที่อบแล้ว ค่อย ๆ เพิ่มแสงให้น้องทีละระดับ เช่น ค่อย ๆ เปลี่ยนที่ขยับไปที่ ๆ มีแสงมากขึ้น
ช่วงแรกให้เลี้ยงต้นไม้ในที่ชื้น ๆ ก่อนนะคะ เพราะเค้าเพิ่งออกมาจากที่ชื้นมาก ๆ
รอปรับสภาพสัก 10 วันค่อยเปลี่ยนวัสสดุดินปลูก หรือเลี้ยงแห้งลง
หลังจากการอบต้นไม้ เมื่อนำออกมาหากอากาศเปลี่ยนแปลงมากเกินไป หรือสภาพในถุงและน้องถุงต่างกันมากเกินไป อาจเกิดอาการใบช้ำน้ำได้ เป็นเรื่องปกติ ให้อ่านทำความเข้าใจเรื่องใบช้ำน้ำในบทความ ใบช้ำน้ำ สาเหตุ การรักษาและการป้องกัน ค่ะ
รากอากาศจะมีขนรากหนาแน่นฟู จากความชื้นที่สูงและคงที่ภายในถุงอบ และจะพบว่าเมื่อนำออกมาข้างนอกที่ความชื้นน้อยกว่า อาจทำให้ปลายรากดำกุดไปบ้าง
สิ่งที่อาจพบหลังนำน้องออกมาข้างนอก
อาจมีใบล่างเหลืองบ้าง หรือทิ้งใบไป เนื่องจากสภาพข้างในถุงกับข้างนอกต่างกันมาก หรือต่างกันเฉียบพลัน
อาจมีการชะงักการโตบ้าง เนื่องจากอยู่ดีๆเปลี่ยนความชื้นกระทันหัน
ตอนอยู่ในถุงใบจะสีอ่อน นำมาข้างนอกน้องจะค่อยๆปรับสภาพจนเข้มเอง
รากอากาศที่มีขนรากสมบูรณ์จากความชื้นที่คงที่ในถุง อาจมีปลายรากไหม้ดำกุดไป เป็นปกติเกิดขึ้นได้ ให้รากในดินแข็งแรงไว้ก็พอค่ะ ส่วนรากอากาศแก้ไขได้ด้วยการรักษาความชื้นดีๆ
รักกันชอบกันติดตามกันได้ในเพจ Leafy Monster นะคะ โมมีโพสความรู้การดูแลต้นไม้มากมายแปะไว้ให้ค่า
ตอบ: ไม่ควรเปิดค่ะ เพราะจะเป็นการทำให้จุดประสงค์ในการอบเราเสียไปเลย การอบคือเราต้องการคุมความชื้นให้คงที่อยู่ตลอด ลดการสูญเสียน้ำ เมื่อพืชไม่เสียน้ำ หรือความชื้นไม่แกว่งจนเค้าตกใจ รากจะเจริญเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ชะงักค่ะ ให้เปิดทีเดียวตอนอบเสร็จเอาออกค่ะ
ตอบ: แดด 100% ไม่ควรอย่างยิ่งค่ะ เพราะนั่นคือการนึ่งไม้แ
ล้วค่ะ โมมีประสบการณ์อบต้นไม้แล้วร้อนเกิน น้องเนื้อเยื่อละลายเป็นไอติมเลยค่ะ ให้พรางแสงหน่อยนะคะ แล้วก็อุณหภูมิห้ามร้อนจนเกินไปค่ะ
ตอบ: ไม้เนื้อเยื่อนิยมอบในถ้วยคัพเค้กค่ะ เนื่องจากประหยัดพื้นที่ อบแยกต้นง่าย ถ้าเป็นรา ก็จะไม่ปะปนกันค่ะ ส่วนไม้วางข้อและไม้ยกยอด จะอบในถุงง่ายดีค่ะ ขนาด
ใหญ่
ตัวอย่างการ อบต้นไม้ในถุงพลาสติด ในรูปเป็นการตัดขยายอิพิด่างขาวของโมเอง เนื่องจากเป็นคนขี้กลัว และรักลูกค้ามากๆ โมจะไม่รีบเท่าไหร่ (ถามลูกค้ายังเค้ารีบไหม) อบยาวๆจนรากในกระถางทะลุไปเลย 45 วัน และนำออกมาพักข้างนอกอีก 10 วันเพื่อให้ปรับสภาพ ผลลัพธ์เป็นอย่างที่ได้ค่ะ สวยเช้งใบเด้งใหญ่ รากทะลุวิ่งออกนอกกระถาง (จากตอนแรกมีใบเดียว)
ตอบ: สแฟกนั่มมอส พีทมอส สำหรับไม้เล็กๆรากน้อยๆ ช่วยให้รากเดินดีมากค่ะ ส่วนไม้ใหญ่ๆใช้กาบมะพร้าว พีทมอส เพอร์ไลท์จะประหยัดต้นทุนและใช้ดีค่ะ
สแฟกนั่มสะอาดไม่ค่อยเจอรา คงความชื้นดี ส่วนมากเจอตะไคร่เขียวๆแทน5555 ส่วนมากนิยมใช้กันในเนื้อเยื่อ
พีทมอส สารอาหารดี อ่อนนุ่ม ระวังรานิดนึงค่ะ แต่โมใช้เป็นหลักเลยทผสมกับเพอร์ไลท์ ในต้นอนุบาล และไม้วางข้อ
กาบมะพร้าวสับ ใช้ในไม้วางข้อประหยัดต้นทุนได้ดี แต่ควรแช่น้ำล้างๆหลายๆครั้งให้หายเหลืองก่อนนำมาใช้
วัสดุที่ใช้อบต้นไม้วางข้อและอนุบาลไม้เนื้อเยื่อ โมเลือกใช้เพอร์ไลท์และพีทมอสค่ะ เนื่องจากราคาไม่แพงมาก พีทมอสมีสารอาหารพอเหมาะ ส่วนเพอร์ไลท์ให้ความโปร่งระบายน้ำ แต่สามารถอุ้มความชื้นได้ดี จึงเป็นวัสดุที่เหมาะแก่การชำมากค่ะ
รักกันชอบกันติดตามกันได้ในเพจ Leafy Monster นะคะ โมมีโพสความรู้การดูแลต้นไม้มากมายแปะไว้ให้ค่า